ทำไมถึงงอแง
อาการงอแงเป็นเรื่องปกติในวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงอายุ 1-3 ขวบ แต่เด็กโตบางคนก็มีเหมือนกัน อาการงอแงเกิดขึ้นเพราะความกังวล เด็กๆ อายุ 1-3 ขวบกำลังเรียนรู้เรื่องการใช้ภาษาและท่าทาง เด็กๆ จะรู้สึกกังวลว่าจะไม่รู้จะแสดงความต้องการของตัวเองออกมาอย่างไร ความโกรธ ความผิดหวังและความโกรธควบคุมได้ยากสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ
ต้องการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง เป็นช่วงอายุที่เด็กเริ่มรู้จักความว่า "ไม่" แล้ว
เด็กบางคนขี้งอแงสุด ๆ
เด็กหลายๆ คนจะงอแงก็เมื่อมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างมากระตุ้น แต่ก็มีอีกหลายคนที่งอแงแบบไม่มีปี่มีขลุย ต่อไปนี้เป็นสาเหตุสุดฮิตที่เป็นฉนวนให้เด็กงอแง
เด็กบางคนขี้กลัวมากกว่าเด็กคนอื่นๆ บางที่อาจเป็นเพราะเด็กเหล่านั้นพูด วิ่ง ปีนป่ายได้ไม่เก่งเท่าเด็กคนอื่นๆ
ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เด็กบางคนเป็นคนอ่อนไหวง่าย ดิ้อ หรือไม่ยอมรับความผิดหวังมากกว่าเด็กคนอื่นๆ
เด็กบางคนต้องการแค่เรียกร้องความสนใจ ความสนใจจากการงอแงไม่ได้เป็นสิ่งที่เด็กๆ ต้องการอยากจะได้รับ แต่มันก็ได้รับความสนใจอยู่ดี
งอแงแล้วได้ผล ถ้าเราโวยวายแล้วได้สิ่งที่เราต้องการเสมอ เราก็คงทำอย่างนั้นเหมือนกัน
จะป้องกันหรือลดอาการงอแงได้อย่างไร
หลักการสำคัญคือเราต้องรู้ว่าอะไรทำให้ลูกงอแง ลองวิธีต่อไปนี้ดูนะครับ
- หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้งอแง เช่น เลือกช่องที่ไม่มีขนนขายตอนจ่ายเงินหลังซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ไปซื้อของเล่นตอนลูกไม่อยู่ และอย่าพาลูกๆ ไปเที่ยวจนให้ลูกเหนื่อยหรือหิวมากๆ (ถ้าลูกเป็นคนโมโหหิว ให้เตรียมขนมขบเคี้ยวเผื่อไปด้วย)
- มีเวลาดีๆ ร่วมกัน เจียดเวลาสักเล็กน้อยทุกวันเพื่อกอดและเล่นกับลูก (เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกม ด้วยกัน) ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันอาการงอแงได้ 100% แต่ก็เป็นวิธีการสร้างความผูกพันในครอบครัวที่ดี
- ปล่อยให้ลูกควบคุมสถานการณ์ แต่จริงๆ แล้วเราจะต้องควบคุมลูกอีกที ถ้าทำได้ เสนอทางเลือกให้ลูก เช่น แทนที่จะบอกว่า "ไปแต่งตัวได้แล้ว" ลองพูดประมาณว่า "วันนี้จะกางเกงหรือชุดกระโปรงดี" แทนที่จะบอกว่า "ไปนอนกันได้แล้ว" ลองพูดทำนองว่า "เราอ่านนิทานเรื่องไหนดีก่อนนอน จะเอา เด็กเลี้ยงแกะ หรือ เจ้าหญิงนิทรา" (ให้เลือกแค่ 2 ตัวเลือกก็พอครับ) เมื่อเราพูดแบบนี้ เด็กจะได้ไม่รู้สึกว่าเราเป็นจอมบงการ และอาจจะรู้สึกต่อต้านเราน้อยลง
- เบี่ยงเบนความสนใจ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่ามันได้ผล ถ้าเราทำตั้งแต่เพิ่งเริ่มออกอาการงอแง ถ้าลูกเริ่มออกอาการงอแงหลังจากที่ไม่ได้เล่นของเล่นที่อยากเล่น ให้ลองหาเรื่องอื่นเข้ามา แล้วทำให้มันดูน่าตื่นเต้น (โฮ้โห ดูเกมนั้นสิ มีเต๋าบินได้ด้วย เห็นไหมลูก!) หรือให้รีบชวยไปเล่นม้าลื่นทันทีเมื่อเห็นว่าชิงช้าตัวสุดท้ายมีคนนั่งไปแล้ว เราจะต้องใช้การที่เด็กยังมีสมาธิสั้นน้นให้เป็นประโยชน์
ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังช่วยไม่ได้ อย่าเพิ่งหัวเสียครับ ตอนนี้เป็นวิธีการรับมือ
- หายใจเข้าลึกๆ เพราะถ้าเรายิ่งโกรธ เรื่องก็จะไปกันใหญ่
- อย่านึกยอมแพ้ เพราะการให้สิ่งที่เด็กอยากได้นั้นเป็นการแก้ปัญหาแบบตัดรำคาญ แต่นั้นจะทำให้เด็กรู้ว่างอแงแล้วจะได้ผล
- ปล่อยให้ร้องออกมาให้พอ ในที่ที่ปลอดภัย ถ้างอแงในห้างฯ เพราะอยากได้ของเล่นแพงๆ ให้อุ้มกลับบ้านไปเลย (ต้องยอมเสียดายเวลาที่เราจะไม่ได้ดูอย่างอื่น) หรือถ้าเป็นเด็กโตหน่อย ก็ให้กลับไปที่ห้อตัวเอง พร้อมบอกให้รู้ว่า สงบสติอารมณ์ได้แล้วค่อยออกมา
- กอดแน่นๆ เมื่อเด็กหยุดงอแง บางทีเด็กอาจจะรู้สึกแปลกๆ เวลาโกรธ และรู้ดีว่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่พอใจ การกอดจะทำให้เด็กรู้ว่าเรายังรักเขาอยู่ และเราภูมิใจในตัวเขาที่หยุดทำตัวงอแงได้แล้ว
จริงๆ แล้วอาการงอแงเป็นเรื่องปกติ และจะหายไปเมื่อเด็กอายุมากขึ้น แต่น่าจะพาเด็กไปพบแพทย์ถ้า
- อาการงอแงเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น และ รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
- เด็กจะเรียนจบชั้นประถมแล้ว ยังงอแงไม่เลิกซะที
- เด็กทำร้ายตัวเองหรือคนอื่นเวลางอแง
- เรากังวลว่าจะมีการผิดปกติในด้านการพัฒนาการ
- อาการงอแงรุนแรงจนทำให้เราอยากจะลงไม้ลงมือกับเด็ก ...
|