พ่อแม่ส่วนใหญ่ทุกวันนี้เชื่อในการทำโทษ ถ้าเด็กทำอะไรผิด คุณต้องสอนบทเรียนแก่เขา การทำโทษอาจจะเป็นครูที่ดี แต่ถ้ามากเกินไป เด็กก็จะไม่จำ หรือจะยิ่งเลวร้ายยิ่งไปกันใหญ่ได้

ต่อไปนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่ว ๆ ไป เด็กชายอายุ 9 ขวบคนหนึ่ง เรียกเขาว่าป๊อดก็แล้วกัน ทำตัวไม่น่ารักมาตลอดทั้งเดือนที่แล้ว เขาไม่ยอมทำงานบ้าน ตะโกนใส่คุณแม่ของเขา บางครั้งด่าว่าคุณแม่ก็มี เขายังมีปัญหากับทางโรงเรียนอีกต่างหาก คุณครูของเขาโทรมาที่บ้านถึง 2 ครั้งเพื่อรายงาน และขู่ว่าจะให้ป๊อด พักการเรียน

ทุกครั้งที่ทำผิด การทำโทษป๊อดก็จะเพิ่มมากขึ้น ครั้งแรกเขาก็ถูกทำโทษเป็นเวลาซักครู่หนึ่ง ต่อมาก็ 2 อาทิตย์ ต่อมาก็หนึ่งเดือน เขาโดนห้ามออกไปเล่นนอกบ้าน อดเล่นวิดีโอเกมสุดที่รัก อดดูทีวี ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสีย เขาได้รับการทำโทษจะจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว

ป๊อดไม่ใช่เด็กไม่ดี ในเวลาที่เขาไม่ได้โกรธคุณพ่อคุณแม่ พี่สาว หรือ คุณครูของเขา เขาชอบไปกอดคนอื่นและอยากให้คนอื่นกอดเขาด้วย แต่ตอนนี้คุณแม่ของป๊อดกำลังโกรธจัดจนกระทั่งดูเหมือนว่า เธอลืมไปแล้วว่าเธอรักป๊อดมากแค่ไหน เธอเริ่มเล่าปัญหาของป๊อดให้ฟัง ยังไม่ทันไรเธอก็หันไปหาป๊อด พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า "ทำไมลูก? ทำไมลูกไม่เชื่อฟังแม่เลย?"

ถ้ามาลองดูให้ดี มันดูเหมือนจะแน่ชัดว่า ป๊อดและคุณแม่ของเขา ตกอยู่ในภาวะที่เรียกว่า วังวนในแง่ลบ กำลังถูกดูดลงไปในวังวนแห่งความรู้สึกที่เจ็บปวด ยิ่งป๊อดรู้ว่าตัวเขาเองถูกทำโทษมากเท่าไร เขาก็จะยิ่งต้องการจะเอาคืนมากเท่านั้น ยิ่งเธอทำโทษลูกมากเท่าไร ความเสียใจ ความรู้สึกผิด ความผูกพัน และความโกรธ ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

วังวนแห่งความเจ็บปวดนี้มันช่างง่ายนักที่จะพลัดตกลงไป ต่อไปนี้ เป็นวิธีที่จะช่วยคุณปีนขึ้นมาได้

ขั้นแรก และเป็นขั้นที่สำคัญที่สุด คอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า คุณรักอะไรในตัวลูกของคุณ เมื่อเวลาที่ลูกเริ่มทำตัวไม่ดี นั่นเป็นเวลาที่เราจะต้องบอกกับเขาว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นคนไม่ดี และพฤติกรรมเท่านั้นที่ไม่ดี เมื่อไรก็ตามที่เขาเริ่มรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่รักเขาน้อยลง นั่นเป็นเวลาที่เขาต้องได้รับการบอกกล่าวว่าคุณรักเขามากแค่ไหน

ต่อไปก็ทำให้ระยะเวลาการทำโทษสั้นลง ควรจะมีเวลาพักบ้างระหว่างการทำโทษ หาข้ออ้างจากการทำดี ทำตัวให้ลูกเห็นว่า คุณเห็นเขาเป็นคนมีเหตุผล น่ารัก เชื่อฟัง และมีความรับผิดชอบ -- ถึงแม้ว่าจะเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม พยายามมองหาสิ่งดี ๆ ที่ลูกทำ คุณต้องแน่ใจว่า ลูกของคุณรู้ว่า คุณรับรู้การกระทำของเขาทุกอย่าง

ต้องทำใจที่จะปล่อยวางซะบ้าง แทนที่จะกักบริเวณลูกของคุณเวลาเขาทำตัวไม่ดี มันอาจจะเพียงพอแล้วที่จะบอกว่า " ลูกกำลังเถียงแม่อยู่นะ และแม่ก็ไม่ชอบด้วย แม่รู้ว่านะลูกทำตัวน่ารักได้ " มองไปที่เป้าหมายระยะยาวเข้าไว้ นั่นคือ การที่ลูกของคุณเป็นคนมีเหตุผล สุภาพ และควบคุมตัวเองได้ดี บอกให้ลูกของคุณทราบถึงสิ่งที่คุณอยากให้เป็น

เรื่องของวังวนในแง่ลบนั้น จริง ๆ แล้วมันไม่ยากที่ปีนขึ้นมา ถ้าคุณมีสติ และตัดสินใจด้วยเหตุผล คุณก็จะปีนขึ้นมาได้เอง พร้อมกับความรู้สึกดี ๆ ที่จะส่งเสริมพฤติกรรมดี ๆ คำชมเชย สร้างความเคารพตัวเอง และ สร้างแรงบันดาลใจ ที่จะทำในสิ่งที่ดีให้แก่ลูกของคุณ พึงระลึกไว้เสมอว่า การเปลี่ยนแปลงที่พูดถึงนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ เว้นเสียแต่ว่าตัวคุณเองจะเลือกแนวทางเดิม ๆ คือ เอาแต่ลงโทษมากขึ้น ๆ และนั่นก็หมายถึง คุณรักลูกของคุณน้อยลง ๆ ...